โครงสร้างข้อมูลแบบเซ็ต คือ เป็นโครงสร้างข้อมูลที่ข้อมูลแต่ละตัวไม่มีความสัมพันธ์กัน
ในภาษาซี แต่สามารถใช้หลักการของการดำเนินงานแบบเซ็ตมาใช้ได้ตัวดำเนินการของเซ็ต
(Set operators)
ประกอบด้วย
- set intersection
- set union
- set difference (ความแตกต่าง)
สตริง (String) หรือ สตริงของอักขระ (Character String)
เป็นข้อมูลที่ประกอบไปด้วย ตัวอักษร ตัวเลขหรือเครื่องหมายเรียงติดต่อกันไป รวมทั้งช่องว่างสติง
สตริง (String) เป็นข้อมูลที่ประกอบไปด้วย ตัวอักษร ตัวเลขหรือเครื่องหมายเรียงติดต่อกันไป
รวมทั้งช่องว่างการกำหนดสตริงเราทำได้หลายแบบ ดังนี้
1.กำหนดเป็นสตริงที่มีค่าคงตัว คือ กำหนดได้ทั้งนอกและในฟังก์ชั่นกำหนดไว้นอกฟังก์ชัน
ชื่อค่าคงตัวจะเป็นพอยเตอร์ชี้ไปยังหน่วยความจำที่เก็บสตริงนั้น เมื่อกำหนดไว้ในฟังก์ชัน
จะเป็นพอยเตอร์ไปยังหน่วยความจำที่เก็บตัวมันเอง
2.กำหนดโดยใช้ตัวแปรอะเรย์หรือพอยเตอร์การกำหนดค่าตัวแปรสตริง
ให้แก่ตัวแปรพอยเตอร์และอเรย์ คือ สามารถกำหนดค่าคงตัวสตริงให้พอยเตอร์หรืออเรย์
ได้ในฐานะค่าเริ่มต้นการกำหนดตัวแปรสตริง คือ ในการกำหนดตัวแปรของสตริง
อาศัยหลักการของอะเรย์ เพราะ สตริงก็คืออะเรย์ของอักขระที่ปิดท้ายด้วย
null character (\0) และมีฟังก์ชันพิเศษสำหรับทำงานกับสตริง
โดยเฉพาะอะเรย์ของสตริง คือ ถ้าหากมีสตริงจำนวนมาก ก็ควรจะทำให้เป็นอะเรย์ของสตริง
เพื่อที่จะเขียนโปรแกรมได้สะดวก การสร้างอะเรย์ของสตริง
สามารถสร้างได้ทั้งแบบที่ให้ค่าเริ่มต้นและแบบที่กำหนดเป็นตัวแปร
การดำเนินการเกี่ยวกับสตริง
ในการดำเนินการเกี่ยวกับสตริง จะมีฟังก์ชันที่อยู่ในแฟ้ม ข้อมูล stdio.h
เก็บอยู่ใน C Library อยู่แล้วสามารถนำมาใช้ได้
โดยการใช้คำสั่ง #include ในการเรียกใช้ เช่น
- ฟังก์ชัน strlen(str) ใช้หาความยาวของสตริง
- ฟังก์ชัน strcpy (str1,str2) ใช้คัดลอกข้อมูลจาก string หนึ่งไปยังอีก string หนึ่ง
- ฟังก์ชัน strcat(str1,str2) ใช้เชื่อมต่อข้อความ 2 ข้อความเข้าด้วยกัน
อะเรย์ของสตริง
ถ้าหากมีสตริงจำนวนมาก ก็ควรจะทำให้เป็นอะเรย์ของสตริง เพื่อที่จะเขียน
โปรแกรมได้สะดวก การสร้างอะเรย์ของสตริง สามารถสร้างได้ทั้งแบบที่ให้ค่าเริ่มต้นและแบบที่กำหนดเป็นตัวแปร
อะเรย์ของสตริงที่ยาวไม่เท่ากัน
ฟังก์ชันอื่นที่ใช้กับสตริง การใช้สตริงนั้น จะมีฟังก์ชันในการกระทำกับสตริงอีกมาก จะช่วยให้การทำงานนั้นสะดวดมากยิ่งขึ้น ซึ่งการใช้ฟังก์ชันต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับสตริงนั้นจะต้องนำเข้าไลบรารีไฟล์ strintg.h ด้วยเสมอ ซึ่งมีฟังก์ชันต่าง ๆ ดังนี้
วันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
วันพุธที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
DTS03-06-2552
ความหมายของอาร์เรย์
โครงสร้างข้อมูลแบบอาร์เรย์ (Array) หรือตัวแปรชุด มี 2 ความหมาย คือ
1. ความหมายโดยทั่วไปอาร์เรย์ หมายถึงโครงสร้างที่นำข้อมูลชนิดเดียว
กันมาจัดเรียงกันเป็น n มิติเป็นโครงสร้างตารางรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า
2. ความหมายทางคอมพิวเตอร์อาร์เรย์ หมายถึง กลุ่มของช่วงความจำ ในหน่วยความที่ใช้เก็บข้อมูลชนิดเดียวกันและ ทุกช่องต้องมีขนาดเท่ากัน ภายใต้ตัวแปรเดียวกัน
การสร้าง Array ขึ้นมาใช้งานนั้น ต้องคำนึงถึง
1. ชื่อของ Array
2. ขนาดของ Array แต่ละช่อง และมิติของ Array
3. ค่าสูงสุด ( Upper Bound) และค่าต่ำสุด (Lower Bound) ในแต่ละมิติ
อาร์เรย์ 1 มิติในการใช้โดยระบุถึงชื่อของอาร์เรย์นั้น และสามารถใช้ค่าใด ๆ
ในอาร์เรย์นั้นได้โดยใช้ชื่อกับตัวห้อยหรือ subscript อาร์เรย์ A(N)
หมายถึง อาร์เรย์ที่ชื่อ A ที่สามารถเก็บค่าได้ N ค่าหรือเป็นตารางแถวเดียวที่มีช่องอยู่ N ช่อง
แต่ละช่องมีชื่อ A(1),A(2),...,A(N) ตามลำดับ ในระดับที่ลึกเข้าไปในระบบคอมพิวเตอร์อีก 1 ระดับ
(ระดับ system programming)ชื่อ A จะเป็นแอดเดรสของอาร์เรย์ในพื้นที่ความจำ
ถ้าแต่ละช่องอาร์เรย์กินเนื้อที่ C เวิร์ด (word) ตำแหน่งหรือแอดเดรสของค่าตัวที่ i ในอาร์เรย์ [ หรือ A(i)] หาได้โดยการนำแอดเดรสตั้งต้นของอาร์เรย์นั้น (นั่นคือตำแหน่งของ A)
การเข้าถึงข้อมูล (Access) ข้อมูลใด ๆ ในโครงสร้าง สามารถกระทำได้โดยการระบุหมายเลขกำกับช่องข้อมูล ที่เรียกว่า ตัวดัชนี (Index) หรือบางครั้งเรียกว่า ตัวชี้ หรือ ซับสคริปต์ (Sub Script) การกำหนด Arrayการกำหนดอะเรย์จะต้องกำหนดชื่ออะเรย์ พร้อม subscript ซึ่งเป็น ตัวกำหนดขอบเขตของอะเรย์ มีได้มากกว่า 1 ตัว จำนวน subscript จะเป็นตัวบอกมิติของอะเรย์นั้น
อะเรย์ที่มี subscript มากกว่า 1 ตัวขึ้นไป จะเรียกว่า อะเรย์หลายมิติ
การกำหนด subscript แต่ละตัวจะประกอบไปด้วย ค่าสูงสุดและค่าต่ำสุดของ subscript
การประกาศค่าตัวแปรอะเรย์ในภาษาคอมพิวเตอร์บางภาษาลักษณะโครงสร้างข้อมูลอะเรย์ ข้อกำหนดของการกำหนดค่าต่ำสุดและค่าสูงสุดของ subscript คือค่าต่ำสุดต้องมีค่าน้อยกว่าหรือเท่ากับค่าสูงสุดเสมอ ค่าต่ำสุด เรียกว่า ขอบเขตล่าง (lower bound) ค่าสูงสุด เรียกว่า ขอบเขตบน (upper bound) ค่า subscript ที่ใช้อ้างอิงถึงสมาชิก จะต้องมีค่ามากกว่า หรือเท่ากับขอบเขตล่าง
record เป็นการกำหนดข้อมูลให้เป็นรูปแบบของ structurestructure
เป็นโครงสร้างที่สมาชิกมีประเภทของข้อมูลต่างกัน โดยอาจเป็นจำนวนเต็ม ทศนิยม อะเรย์ อักขระ พอยเตอร์ และ structure ด้วยกัน
โครงสร้างข้อมูลแบบอาร์เรย์ (Array) หรือตัวแปรชุด มี 2 ความหมาย คือ
1. ความหมายโดยทั่วไปอาร์เรย์ หมายถึงโครงสร้างที่นำข้อมูลชนิดเดียว
กันมาจัดเรียงกันเป็น n มิติเป็นโครงสร้างตารางรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า
2. ความหมายทางคอมพิวเตอร์อาร์เรย์ หมายถึง กลุ่มของช่วงความจำ ในหน่วยความที่ใช้เก็บข้อมูลชนิดเดียวกันและ ทุกช่องต้องมีขนาดเท่ากัน ภายใต้ตัวแปรเดียวกัน
การสร้าง Array ขึ้นมาใช้งานนั้น ต้องคำนึงถึง
1. ชื่อของ Array
2. ขนาดของ Array แต่ละช่อง และมิติของ Array
3. ค่าสูงสุด ( Upper Bound) และค่าต่ำสุด (Lower Bound) ในแต่ละมิติ
อาร์เรย์ 1 มิติในการใช้โดยระบุถึงชื่อของอาร์เรย์นั้น และสามารถใช้ค่าใด ๆ
ในอาร์เรย์นั้นได้โดยใช้ชื่อกับตัวห้อยหรือ subscript อาร์เรย์ A(N)
หมายถึง อาร์เรย์ที่ชื่อ A ที่สามารถเก็บค่าได้ N ค่าหรือเป็นตารางแถวเดียวที่มีช่องอยู่ N ช่อง
แต่ละช่องมีชื่อ A(1),A(2),...,A(N) ตามลำดับ ในระดับที่ลึกเข้าไปในระบบคอมพิวเตอร์อีก 1 ระดับ
(ระดับ system programming)ชื่อ A จะเป็นแอดเดรสของอาร์เรย์ในพื้นที่ความจำ
ถ้าแต่ละช่องอาร์เรย์กินเนื้อที่ C เวิร์ด (word) ตำแหน่งหรือแอดเดรสของค่าตัวที่ i ในอาร์เรย์ [ หรือ A(i)] หาได้โดยการนำแอดเดรสตั้งต้นของอาร์เรย์นั้น (นั่นคือตำแหน่งของ A)
การเข้าถึงข้อมูล (Access) ข้อมูลใด ๆ ในโครงสร้าง สามารถกระทำได้โดยการระบุหมายเลขกำกับช่องข้อมูล ที่เรียกว่า ตัวดัชนี (Index) หรือบางครั้งเรียกว่า ตัวชี้ หรือ ซับสคริปต์ (Sub Script) การกำหนด Arrayการกำหนดอะเรย์จะต้องกำหนดชื่ออะเรย์ พร้อม subscript ซึ่งเป็น ตัวกำหนดขอบเขตของอะเรย์ มีได้มากกว่า 1 ตัว จำนวน subscript จะเป็นตัวบอกมิติของอะเรย์นั้น
อะเรย์ที่มี subscript มากกว่า 1 ตัวขึ้นไป จะเรียกว่า อะเรย์หลายมิติ
การกำหนด subscript แต่ละตัวจะประกอบไปด้วย ค่าสูงสุดและค่าต่ำสุดของ subscript
การประกาศค่าตัวแปรอะเรย์ในภาษาคอมพิวเตอร์บางภาษาลักษณะโครงสร้างข้อมูลอะเรย์ ข้อกำหนดของการกำหนดค่าต่ำสุดและค่าสูงสุดของ subscript คือค่าต่ำสุดต้องมีค่าน้อยกว่าหรือเท่ากับค่าสูงสุดเสมอ ค่าต่ำสุด เรียกว่า ขอบเขตล่าง (lower bound) ค่าสูงสุด เรียกว่า ขอบเขตบน (upper bound) ค่า subscript ที่ใช้อ้างอิงถึงสมาชิก จะต้องมีค่ามากกว่า หรือเท่ากับขอบเขตล่าง
record เป็นการกำหนดข้อมูลให้เป็นรูปแบบของ structurestructure
เป็นโครงสร้างที่สมาชิกมีประเภทของข้อมูลต่างกัน โดยอาจเป็นจำนวนเต็ม ทศนิยม อะเรย์ อักขระ พอยเตอร์ และ structure ด้วยกัน
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)